สตีเบล เอลทรอน ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของ “German Sustainability Award” ชูความเป็นผู้นำด้านการผลิตฮีทปั๊ม ที่บุกเบิกเทคโนโลยีการทำความร้อน การระบายอากาศ และการปรับอากาศ

สตีเบล เอลทรอน ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามแบรนด์ที่เข้าสู่รอบสุดท้ายของเวทีประกาศรางวัล German Sustainability Award ในหมวดหมู่เทคโนโลยีการทำความร้อน การระบายอากาศ และการทำความเย็น ถือเป็นผู้บุกเบิกแห่งวงการ

โดยการตัดสินจากคณะกรรมการของ German Sustainability Award for Companies ที่เล็งเห็นถึงความสร้างสรรค์และแนวคิดด้านการประหยัดพลังงานของบริษัทฯ ในฐานะผู้ผลิตและซัพพลายเออร์ชั้นนำของผลิตภัณฑ์ฮีทปั๊ม ที่ช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานความร้อนและลดผลกระทบทางสภาพภูมิอากาศ

ไค ชีเฟลไบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สตีเบล เอลทรอน กล่าวว่า “การสร้างอนาคตที่ยั่งยืน คือวิสัยทัศน์ที่เป็นแรงผลักดันให้ สตีเบล เอลทรอน ตลอด 100 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้ง ในทุกวันเรามุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการทำความร้อนและความเย็นในอาคาร การผลิตน้ำร้อน และระบบระบายอากาศ ที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ และนอกจากการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านผลิตภัณฑ์ เรายังตระหนักถึงความรับผิดชอบในฐานะองค์กร โดยได้ดำเนินการเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม ตลอดจนให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสังคมในการตัดสินใจทุกครั้ง การที่คณะกรรมการ German Sustainability Award for Companies ยกย่องเราในฐานะผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมด้วยผลิตภัณฑ์และวิสัยทัศน์นี้ ถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการดำเนินงานของเรา”

ซาร่า โลเออร์ ผู้จัดการด้านความยั่งยืน สตีเบล เอลทรอน เสริมว่า "รางวัล German Sustainability Award เป็นรางวัลระดับประเทศสำหรับความเป็นเลิศด้านความยั่งยืนทางธุรกิจ องค์กรท้องถิ่น และการวิจัย ในประเทศเยอรมนี และถือเป็นรางวัลด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป สตีเบล เอลทรอน ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นหนึ่งในสามบริษัทชั้นนำในหมวดหมู่เทคโนโลยีการทำความร้อน การระบายอากาศ และการทำความเย็น และพันธกิจการดำเนินงานต่าง ๆ ของเรา ได้รับการยกย่องเป็นอย่างดี"

เกี่ยวกับรางวัล German Sustainability Award

เป็นการยกย่องบริษัทจาก 100 อุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จในการสร้างความยั่งยืน โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจากวงการวิจัย สมาคม ธุรกิจ และภาคประชาสังคม จะทำการคัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายและผู้ชนะ ซึ่งจะได้รับการยอมรับในฐานะผู้บุกเบิกในกลุ่มอุตสาหกรรมของตน